• การประชุมกนง. วันที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมา มีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.25% ตามคาด มองว่าอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่ใกล้เคียงกับศักยภาพ เงินเฟ้อที่โน้มเข้าสู่กรอบเป้าหมาย และการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว รวมทั้งรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงินในการรองรับความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้าที่ปรับสูงขึ้น --- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ในปี 2568 มีความเป็นไปได้ที่กนง. อาจปรับลดดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมอีกราว 2 ครั้ง ท่ามกลางความเสี่ยงเศรษฐกิจที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ ขณะที่ ทิศทางเงินเฟ้อในปี 2568 ยังมีแนวโน้มทรงตัวในระดับต่ำกว่าเป้าหมายของกนง. ที่ 1-3%
Home TERA เปิดตัวการให้บริการ T.Cloud Gen3 ทุ่มเงินลงทุน 40 ล. ตามแผนระดมทุน IPO
TERA เปิดตัวการให้บริการ T.Cloud Gen3 ทุ่มเงินลงทุน 40 ล. ตามแผนระดมทุน IPO

TERA เปิดตัวการให้บริการ T.Cloud Gen3 ทุ่มเงินลงทุน 40 ล. ตามแผนระดมทุน IPO

ปั๊มรายได้-กำไรจากการบริการเติบโตต่อเนื่อง

บมจ. เทอร์ราไบท์ พลัส (TERA) เปิดตัวการให้บริการโครงการ T.Cloud Gen3 (ตามวัตถุประสงค์การระดมทุน IPO) ต่อยอดความสำเร็จของการให้บริการ T.Cloud ที่ให้บริการมาแล้ว 2 Generations ปัจจุบัน TERA มีสัญญาลูกค้าองค์กรที่ใช้บริการ T.Cloud (ทั้ง Gen1 และ Gen2) อยู่มากกว่า 100 สัญญา ฟากผู้บริหาร "บุญชัย ตั้งวัฒนาพรชัย" เปิดเผย พร้อมเดินหน้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการบริการโดยเฉพาะอย่างยิ่งรายได้แบบประจำสม่ำเสมอ (Recurring Revenue) เป็นไปตามกลยุทธ์ Recurring First และ Service First ของ TERA

 


นายบุญชัย ตั้งวัฒนาพรชัย รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทอร์ราไบท์ พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ “TERA” เปิดเผยว่า บริการคลาวด์และ Data Center ซึ่งเป็น Mega Trend ที่กำลังเติบโตทั่วโลก สอดรับกับนโยบาย Cloud First ของภาครัฐไทยที่ประกาศในเดือนสิงหาคม เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล บริษัทจึงตัดสินใจลงทุนโครงการ T.Cloud Gen3 ด้วยงบประมาณ 40 ล้านบาทในปี 2567 เป็นไปตามวัตถุประสงค์การระดมทุน IPO ซึ่ง TERA สามารถที่จะดำเนินการได้เร็วกว่าแผนที่ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ mai โดยโครงการนี้คาดการณ์ ROI 25% IRR ประมาณ 35% ขึ้นไป และมีอัตราเติบโตปีละ 20% และ Payback Period ประมาณ 3 ปี ตั้งเป้าจะเริ่มรับรู้รายได้ต้นปี 2568 โดยมีแผนการ Conversion จากสัญญาลูกค้าเดิมที่ให้บริการ T.Cloud Gen2 ให้ได้มากที่สุด คาดดว่าจะช่วยเพิ่มรายได้บริการจาก 50% เป็น 70% ภายใน 6 ปี พร้อมวางแผนลงทุนรวมประมาณ 67 ล้านบาท ภายใน 6 ปี

นายบุญชัยกล่าวว่า โครงการ T.Cloud Gen3 ถือเป็น Flagship Solutions ของ TERA จึงได้คัดเลือก Data Centers ขนาดใหญ่ที่ได้มาตรฐานสูงระดับโลก พร้อมกับคัดเลือกลงทุนกับอุปกรณ์เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่มีความเสถียรสูงสุดจาก IT Vendors ชั้นนำระดับโลก และ TERA ได้ลงทุนสร้างศูนย์บัญชาการ หรือ Network Operation Center (NOC) ให้บริการ T.Cloud ตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมง เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการในระดับสูงที่สุด ให้บริการโดยทีมงานวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านคลาวด์และ IT Infrastructure จาก TERA ที่มีประสบการณ์เกือบ 20 ปี ปัจจุบัน TERA มีฐานลูกค้าผู้ใช้บริการ T.Cloud ที่เหนียวแน่นในปัจจุบัน มากกว่า 100 สัญญา ในรูปแบบของสมาชิกแบบต่อเนื่องหรือสัญญาแบบ Subscription Model มีอัตราการต่ออายุสัญญาของลูกค้าเดิม (Customer Retention Rate) สูงถึงประมาณ 94% และมีอัตราการเติบโตรายได้การให้บริการอย่างต่อเนื่อง

 


บัดนี้ โครงการ T.Cloud Gen3 มีความคืบหน้าในการลงทุนไปอย่างมาก โดยปัจจุบัน TERA ได้ดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์แล้วเสร็จเรียบร้อย ขณะนี้ อยู่ระหว่างเปิดให้บริการแบบ Soft Launch และมีการยกงานจริงเพื่อทดสอบระบบเสมือนจริง รวมถึงอยู่ระหว่างการสร้างศูนย์บัญชาการ 7x24 ทั้งนี้ เป็นการทดสอบระบบเต็มรูปแบบและเตรียมทีมผู้เชี่ยวชาญ ให้มีความพร้อมการให้บริการแบบเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป

ปี 2566 TERA มีรายได้จากการให้บริการ T.Cloud ประมาณ 62.40 ล้านบาท คิดเป็น 10.33% จากรายได้รวม คิดเป็นอัตราการเติบโตต่อปีประมาณ 29% / สำหรับงวดเก้าเดือน สิ้นสุดไตรมาส 3/2567 TERA มีรายได้จากการให้บริการ T.Cloud ประมาณ 55.64 ล้านบาท คิดเป็น 15.16% จากรายได้รวม คิดเป็นอัตราการเติบโต YoY ประมาณ 19% ซึ่งการลงทุนโครงการ T.Cloud Gen3 นี้ จะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ เพิ่มรายได้จากการให้บริการแบบประจำสม่ำเสมอ และเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นในการให้บริการ T.Cloud ได้สูงขึ้นอีกจาก T.Cloud Gen2 เดิม / บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ของโครงการฯ ในปีแรก 35 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตอย่างน้อย 20% ต่อปี โดยมีแผนการ Conversion จากสัญญาลูกค้าเดิมที่ให้บริการ T.Cloud Gen2 ให้ได้มากที่สุด ซึ่งจะเป็นการป้องกันความเสี่ยงของการลงทุนได้อย่างสูงสุด ประกอบกับการเติบโตจากลูกค้าใหม่ ทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ ที่มีอัตราเติบโตของการใช้บริการคลาวด์ เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง (คาดการณ์การเติบโตของรายได้เฉลี่ยต่อปี CAGR ของตลาด Cloud ในประเทศไทย ระหว่างปี 2567-2572 ประมาณ 19.64% ต่อปี Source: Statistica.com)

 


นายบุญชัยเปิดเผยว่า T.Cloud Gen3 มีจุดเด่นการให้บริการ โดยจัดเก็บข้อมูลในดาต้าเซ็นเตอร์ภายในประเทศที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลขั้นสูง ทั้ง ISO27001, ISO20000, PCI DSS และ LEED มีระดับความปลอดภัยระดับสูง ทั้งยังมีทีมงานที่มากประสบการณ์ด้านคลาวด์ และด้านไอทีอินฟราสตรัคเจอร์ ประมาณ 20 ปี พร้อมให้บริการครบวงจรตั้งแต่การออกแบบ ติดตั้ง และบริการหลังการขาย เพื่อตอบสนองความต้องการขององค์กรทุกขนาด ทั้งหมดนี้ จะทำให้ลูกค้าสามารถมั่นใจได้เลยว่าระบบและข้อมูลสำคัญของพวกเขาจะได้รับการปกป้องอย่างมีความปลอดภัยระดับสูงสุด พร้อมทั้งบริการที่มีประสิทธิภาพจาก TERA อย่างแท้จริง

TERA ให้บริการและพัฒนา Local Cloud ในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากการให้บริการ T.Cloud Gen1 ในปี 2559 ต่อมาในปี 2561 ได้พัฒนาเป็น T.Cloud Gen2 โดยเพิ่มบริการใหม่ๆ เช่น SAP HANA, Microsoft Dynamics และระบบฺ เพื่อรองรับองค์กรทุกขนาด ปัจจุบัน T.Cloud Gen3 ต่อยอดความสำเร็จจากประสบการณ์เกือบ 8 ปี ให้บริการทั้งภาครัฐและเอกชน

“เราเป็นหนึ่งใน IT Solution Provider ที่นำเสนอโซลูชั่นไอทีที่มีคุณภาพ ให้บริการด้วยทีมงานมืออาชีพ มีความเชี่ยวชาญในโซลูชั่นเป็นอย่างดี ขยายธุรกิจด้วยการลงทุนสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านไอทีแอปพลิเคชั่น เพื่อสร้างประโยชน์ต่อลูกค้าอยู่เสมอ พร้อมกับตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 10% ดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการมีส่วนร่วมรับผิดชอบด้าน ESG ในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาลที่ดี เพื่อสร้างการเติบโตของบริษัท ควบคู่กับการสร้างสังคม สิ่งแวดล้อม และบรรษัทภิบาล ที่ดีอย่างยั่งยืน” นายบุญชัย กล่าวในที่สุด

ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2567 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567) กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ Cloud (ทั้ง T.Cloud และ Public Cloud) รวม 90.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน (YoY) 21.40%