• ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุ สถานการณ์เงินบาทเริ่มพลิกผันกลับมาแข็งค่าขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567 จนทะลุแนว 34.00 ไปแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 13 เดือนที่ 33.88 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในเดือนสิงหาคม 2567 หลังประธานเฟดส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับการเตรียมปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย *** ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ที่อ่อนค่าและสถานการณ์ความไม่แน่นอนในตะวันออกกลางดันให้ราคาทองคำในตลาดโลกพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ ซึ่งเพิ่มแรงหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นอีกทางหนึ่ง *** เตือนผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ส่งออก-ผู้นำเข้า ที่มีรายรับ-รายจ่ายในรูปสกุลเงินตราต่างประเทศ จึงต้องให้ความสำคัญกับการใช้เครื่องมือบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
Home ECF เผยครึ่งปีหลัง 67 ไฮซีซั่นธุรกิจ ดันยอดขายทั้งใน-ต่างประเทศ ต่อยอดเติบโต
ECF เผยครึ่งปีหลัง 67 ไฮซีซั่นธุรกิจ ดันยอดขายทั้งใน-ต่างประเทศ ต่อยอดเติบโต

ECF เผยครึ่งปีหลัง 67 ไฮซีซั่นธุรกิจ ดันยอดขายทั้งใน-ต่างประเทศ ต่อยอดเติบโต

ECF มองครึ่งปีหลัง 2567 โตต่อเนื่อง เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น เดินหน้าขยายตลาดเฟอร์นิเจอร์ในประเทศ ยอดขายต่างประเทศมีสัญญาณฟื้นตัวดี คว้าออเดอร์ใหม่ อินเดีย และได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มจากกลุ่มประเทศ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ มั่นใจรายได้ปีนี้โตไม่ต่ำ 15%

นายพชรฐณพงษ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF) ผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ครบวงจร จำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยถึง ทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังมีแนวโน้มเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ส่งผลให้มีปริมาณออเดอร์ทั้งในประเทศและส่งออกเฟอร์นิเจอร์เริ่มมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น อีกทั้ง บริษัทมุ่งเน้นขยายตลาดและช่องทางการจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ทั้งในและต่างประเทศต่อเนื่อง

โดยตลาดในประเทศยังคงมีสัญญาณการเติบโต ปัจจัยสนับสนุนจากธุรกิจภาคบริการ ภาคท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อความต้องการใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านเพิ่มขึ้น

ส่วนตลาดต่างประเทศ ยอดขายมีสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น ทั้งนี้คำสั่งซื้อจากต่างประเทศอยู่ใน ทิศทางการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยลูกค้าจากประเทศญี่ปุ่นเริ่มกลับมา เช่นเดียวกับประเทศสหรัฐอเมริกาที่ล่าสุดได้ลูกค้าเพิ่มอีก 2 ราย ขณะที่ ประเทศอินเดีย มีคำสั่งซื้อล็อตใหม่เข้ามา โดยคาดว่าจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 และ ไตรมาสที่ 4 ปีนี้ ส่วนตลาดใหม่ อาทิ ฟิลิปปินส์ รวมถึงประเทศแถบตะวันออกกลาง เช่น คูเวต และซาอุดีอาระเบีย ก็มีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการเจรจาลูกค้าใหม่เพิ่มเติมด้วย

ขณะเดียวกัน บริษัทดำเนินกลยุทธ์ลดต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อเพิ่มระดับอัตรากำไร โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นผลตั้งแต่ไตรมาส 3/67 เป็นต้นไป อีกทั้งตั้งเป้าหมายการเติบโตรายได้ปี 2567 ที่ 15 %