นายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า รัฐวิสาหกิจที่ สคร. กำกับดูแลโดยตรงและมีการเบิกจ่ายงบลงทุนมีจำนวน 43 แห่ง โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ รัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีบัญชีตามปีงบประมาณ (รัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ) และรัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีบัญชีตามปีปฏิทิน (รัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน) โดยในปี 2567 รัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายงบลงทุนจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2567 จำนวน 58,207 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 129 ของแผนการเบิกจ่าย ประกอบด้วยการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ (ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566-เดือนกุมภาพันธ์ 2567) 34 แห่ง จำนวน 42,986 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 127 ของแผนการเบิกจ่าย และรัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน (เดือนมกราคม 2567-เดือนกุมภาพันธ์ 2567) 9 แห่ง จำนวน 15,221 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 134 ของแผนการเบิกจ่าย ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจปีงบประมาณที่เบิกจ่ายได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 ของแผนการเบิกจ่ายและมีมูลค่าสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และการประปานครหลวง และรัฐวิสาหกิจปีปฏิทินที่เบิกจ่ายได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 ของแผนการเบิกจ่ายและมีมูลค่าสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)
นางสาวปิยวรรณ ล่ามกิจจา ที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่สำคัญสามารถเบิกจ่ายได้สูงกว่าแผน อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะของ รฟม. โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 (ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา) ของ รฟท. และโครงการทางวิ่งเส้นที่ 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
นายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการ สคร. กล่าวสรุปว่า การเบิกจ่ายงบลงทุน ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2567 โดยเป็นผลการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ 5 เดือน คิดเป็นร้อยละ 35 ของกรอบงบลงทุนทั้งปี และผลการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน 2 เดือน คิดเป็นร้อยละ 12 ของกรอบงบลงทุนทั้งปี โดยรัฐวิสาหกิจได้เร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนเพื่อช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจในช่วงระหว่างการจัดทำ (ร่าง) พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2567 ทำให้ในภาพรวมมีผลการเบิกจ่ายงบลงทุนคิดเป็นร้อยละ 24 ของกรอบงบลงทุน ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ สคร. จะกำกับติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อให้รัฐวิสาหกิจสามารถเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมาย และเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่อไป