• การประชุมกนง. วันที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมา มีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.25% ตามคาด มองว่าอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่ใกล้เคียงกับศักยภาพ เงินเฟ้อที่โน้มเข้าสู่กรอบเป้าหมาย และการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว รวมทั้งรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงินในการรองรับความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้าที่ปรับสูงขึ้น --- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ในปี 2568 มีความเป็นไปได้ที่กนง. อาจปรับลดดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมอีกราว 2 ครั้ง ท่ามกลางความเสี่ยงเศรษฐกิจที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ ขณะที่ ทิศทางเงินเฟ้อในปี 2568 ยังมีแนวโน้มทรงตัวในระดับต่ำกว่าเป้าหมายของกนง. ที่ 1-3%
Home ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นปรับปรุงหลักเกณฑ์การซื้อขาย short sell-long sell
ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นปรับปรุงหลักเกณฑ์การซื้อขาย short sell-long sell

ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นปรับปรุงหลักเกณฑ์การซื้อขาย short sell-long sell

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นหลักการและร่างประกาศเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ และการขายหลักทรัพย์โดยที่บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยังไม่มีหลักทรัพย์นั้นอยู่ในครอบครอง เพื่อยกระดับการกำกับดูแลการให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ รักษาความเป็นธรรม และสร้างความชัดเจนในการให้บริการของ บล.

ปัจจุบันปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนต่างประเทศ นับเป็นสัดส่วนที่สำคัญของการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งส่วนมากเป็นการส่งคำสั่งผ่าน บล. ในต่างประเทศ ที่ส่งคำสั่งซื้อขายมายัง บล. ไทยอีกทอดหนึ่ง โดย บล. ไทยที่รับคำสั่งซื้อขายดังกล่าว อาจไม่ทราบถึงข้อมูลหรือพฤติกรรมการซื้อขายของลูกค้าของ บล. ต่างประเทศนั้น ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีหลักเกณฑ์ที่ทำให้มั่นใจได้ว่า บล. ไทยที่อยู่ภายใต้กำกับดูแลของ ก.ล.ต. มีขั้นตอนและระบบงานที่รัดกุมในการกลั่นกรองและดูแลให้ บล. ต่างประเทศที่เป็นลูกค้าของตน ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม short sell และ long sell* อย่างถูกต้องด้วย

ก.ล.ต. จึงเห็นควรปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ และการขายหลักทรัพย์โดยที่ บล. ยังไม่มีหลักทรัพย์นั้นอยู่ในครอบครอง ซึ่งคณะกรรมการกำกับตลาดทุนได้มีมติเห็นชอบหลักการปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวแล้ว ในการนี้ ก.ล.ต. จึงเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

(1) กำหนดให้ บล. ที่มีลูกค้าซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ตามกฎหมายต่างประเทศที่ให้บริการเป็นนายหน้าหรือตัวแทนเพื่อซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ให้แก่บุคคลอื่น (inter broker) มีหน้าที่ทำความรู้จักระบบงานของลูกค้า (Know Your Process: KYP) เพิ่มเติม เพื่อให้ลูกค้าทราบและเขาใจหลักเกณฑที่เกี่ยวข้อง และมีการสื่อสารหลักเกณฑดังกล่าวใหลูกคาของตนทราบต่อไป รวมถึงเพื่อให้มั่นใจวาลูกคามีระบบงานในการควบคุมและติดตามให้การปฏิบัติงานเป็นไปตามหลักเกณฑที่เกี่ยวของ

(2) กำหนดให้ บล. ต้องมีระบบงานในการติดตามและตรวจสอบธุรกรรมการซื้อขายของลูกค้าที่มีประสิทธิภาพ

(3) กำหนดให้ บล. ต้องมีข้อตกลงกับลูกค้าก่อนเริ่มให้บริการ เพื่อให้ลูกค้ายินยอมจ่ายค่าปรับในกรณีที่ บล. ถูกลงโทษปรับจากตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือสำนักหักบัญชี อันเนื่องมาจากการที่ลูกค้าปฏิบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม short sell และ บล. มีหน้าที่ต้องบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลงดังกล่าว

(4) กำหนดให้ บล. ต้องมีระบบงานในการรับส่งและแปลงคำสั่งของลูกค้าเข้าสู่ระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด และมีระบบงานในการรับส่งคำสั่งที่มีประสิทธิภาพสามารถจำแนกได้ว่าเป็นธุรกรรม short sell หรือ long sell

(5) ก่อนส่งคำสั่ง บล. ต้องมีการตรวจสอบคำสั่งขายหลักทรัพย์ของลูกค้า เพื่อยืนยันได้ว่าลูกค้ามีการยืมหลักทรัพย์หรือมีหลักทรัพย์ของตนเองครบถ้วนก่อนส่งคำสั่งขาย

(6) หลังส่งคำสั่ง บล. ต้องจัดให้มีระบบในการติดตามและตรวจสอบธุรกรรมการซื้อขายของลูกค้า เพื่อสุ่มตรวจสอบธุรกรรม short sell และ long sell ที่อาจเข้าข่ายไม่เหมาะสม

ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวบนเว็บไซต์ ก.ล.ต. https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=1018 และระบบกลางทางกฎหมาย https://law.go.th/listeningDetail?survey_id=NDM5NERHQV9MQVdfRlJPTlRFTkQ= ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถศึกษาและแสดงความคิดเห็นได้ผ่านช่องทางเว็บไซต์ หรือทาง e-mail : gritchanut@sec.or.th phachisa@sec.or.th หรือ anudporn@sec.or.th จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2567