• การประชุมกนง. วันที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมา มีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.25% ตามคาด มองว่าอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่ใกล้เคียงกับศักยภาพ เงินเฟ้อที่โน้มเข้าสู่กรอบเป้าหมาย และการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว รวมทั้งรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงินในการรองรับความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้าที่ปรับสูงขึ้น --- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ในปี 2568 มีความเป็นไปได้ที่กนง. อาจปรับลดดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมอีกราว 2 ครั้ง ท่ามกลางความเสี่ยงเศรษฐกิจที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ ขณะที่ ทิศทางเงินเฟ้อในปี 2568 ยังมีแนวโน้มทรงตัวในระดับต่ำกว่าเป้าหมายของกนง. ที่ 1-3%
Home กยศ.ยอดกู้ยืม 46,168 ล. เพิ่ม 13% เตรียมนำร่องให้กู้ Reskill Upskill
กยศ.ยอดกู้ยืม 46,168 ล. เพิ่ม 13% เตรียมนำร่องให้กู้ Reskill Upskill

กยศ.ยอดกู้ยืม 46,168 ล. เพิ่ม 13% เตรียมนำร่องให้กู้ Reskill Upskill

กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ขยายกรอบวงเงินให้กู้ยืมปีการศึกษา 2566 จากเดิมที่กำหนดไว้ 40,790 ล้านบาท เป็นจำนวน 46,168 ล้านบาท เพื่อรองรับผู้ขอกู้ยืมที่เพิ่มขึ้น และเตรียมนำร่องการกู้ยืมหลักสูตรอาชีพระยะสั้น (Reskill Upskill) ซึ่งคาดว่าจะเริ่มให้กู้ได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้ เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาตาม พ.ร.บ. กยศ. ฉบับใหม่ โดยในปีนี้มีผลการรับชำระหนี้ 25,719 ล้านบาท (ยอด ณ วันที่ 12 ก.ย. 66) และกองทุนเตรียมทำสัญญาระงับข้อพิพาทก่อนฟ้องและสัญญาปรับโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้ก่อนฟ้องและหลังฟ้องทุกกลุ่มในปลายปีนี้

นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้เปิดเผยว่า “ขณะนี้ คณะกรรมการกองทุนได้มีมติอนุมัติขยายกรอบการให้กู้ยืมในปีการศึกษา 2566 จากเดิมที่กำหนดไว้ 40,790 ล้านบาท เป็นจำนวนเงิน 46,168 ล้านบาท เพื่อรองรับนักเรียน นักศึกษาผู้กู้ยืมจากเดิม 643,256 ราย เนื่องจากมีจำนวนผู้ยื่นขอกู้ยืมเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ประมาณการไว้กว่า 117,000 ราย รวมจำนวนผู้กู้ยืมทั้งสิ้น 760,256 ราย และเพื่อเป็นการช่วยเหลือนักเรียน นักศึกษาและผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ นอกจากนั้น กองทุนยังอยู่ระหว่างเตรียมโครงการนำร่องการให้เงินกู้ยืมในหลักสูตร Reskill Upskill โดยนำร่องให้กู้ในกลุ่มโรงเรียนบริบาล เพื่อเป็นการขยายโอกาสในการศึกษาที่หลากหลาย โดยกองทุนคาดว่าจะสามารถเริ่มให้เงินกู้ยืมในหลักสูตรระยะสั้นดังกล่าวได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้

ตลอดปีที่ผ่านมา กองทุนได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้ค้างชำระของผู้กู้ยืมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ กฎหมายที่ได้แก้ไขใหม่ได้กำหนดให้กองทุนคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 1 ต่อปี อัตราเบี้ยปรับกรณีผิดนัดชำระไม่เกินร้อยละ 0.5 ต่อปี ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกันในทุกกรณี ปรับลำดับการตัดชำระหนี้ใหม่โดยหักจากเงินต้น ดอกเบี้ย และเบี้ยปรับตามลำดับ รวมถึงผู้กู้ยืมสามารถขอปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อขยายระยะเวลาผ่อนชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไขที่กองทุนกำหนด สำหรับการปรับโครงสร้างหนี้ตาม พ.ร.บ. กยศ. ใหม่ กองทุนคาดว่าจะเปิดทำสัญญาระงับข้อพิพาทก่อนฟ้องและสัญญาปรับโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้ก่อนฟ้องและหลังฟ้องทุกกลุ่มเข้ามาดำเนินการได้ในช่วงปลายปีนี้ และจะปลดภาระผู้ค้ำประกันเมื่อผู้กู้ยืมเงินได้ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้แล้วเสร็จ

ปัจจุบัน กองทุนได้ให้โอกาสแก่นักเรียน นักศึกษาทั่วประเทศไปแล้วทั้งสิ้น 6.5 ล้านราย เป็นเงินให้กู้ยืมกว่า 734,127 ล้านบาท ประกอบด้วย ผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างการศึกษา/ปลอดหนี้ 1,138,102 ราย ผู้กู้ยืมที่ชำระหนี้เสร็จสิ้นแล้ว 1,819,051 ราย ผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างการชำระหนี้ 3,548,923 ราย และผู้กู้ยืมเสียชีวิต/ทุพพลภาพ 71,518 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2566) สำหรับภาพรวมการรับชำระหนี้ในปีนี้ กองทุนได้รับชำระเงินคืนจำนวน 25,719 ล้านบาท สำหรับการดำเนินการตามกฎหมายใหม่ดังกล่าว นอกจากจะช่วยเพิ่มโอกาสทางการศึกษาเพื่อสร้างทุนมนุษย์ในการพัฒนาประเทศแล้ว ยังให้โอกาสแก่ผู้กู้ยืมทุกคนในการผ่อนชำระเงินคืนได้อย่างเหมาะสมและเป็นธรรม เพื่อร่วมส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้แก่น้อง ๆ รุ่นต่อไปอีกด้วย” ผู้จัดการกองทุนฯ กล่าวในที่สุด