มูลนิธิโคคา-โคลา ประเทศไทย ร่วมกับ สภากาชาดไทย เดินหน้าโครงการ “น้ำทิพย์ปันน้ำใจให้กาชาด” สานต่อความร่วมมือ 18 ปี สนับสนุนความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยทั่วประเทศ
กรุงเทพฯ 3 ธันวาคม 2567 – มูลนิธิโคคา-โคลา ประเทศไทย โดยกลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทย อันประกอบไปด้วย บริษัท ไทยน้ำทิพย์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท โคคา-โคล่า (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับพันธมิตร สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการ “น้ำทิพย์ปันน้ำใจให้กาชาด” เดินหน้าส่งมอบความช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติทั่วประเทศไทยต่อเนื่องอีก 3 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2568 – 2570 เพื่อร่วมเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของสภากาชาดไทยให้สามารถมอบความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยพิบัติได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ผ่านการมอบน้ำดื่ม “น้ำทิพย์” และดำเนินการขนส่งไปยังหน่วยบรรเทาทุกข์ของสภากาชาดไทยในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างทันท่วงที ผ่านระบบโลจิสติกส์ที่ครอบคลุมทั่วประเทศของไทยน้ำทิพย์และหาดทิพย์
นายธงชัย ศิริธร กรรมการ มูลนิธิโคคา-โคลา ประเทศไทย กล่าวถึงความร่วมมือของโครงการฯ ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 18 ปี ว่า “มูลนิธิโคคา-โคลา ประเทศไทย ให้ความสำคัญกับการมีส่วนรับผิดชอบดูแลสังคมและชุมชนมาโดยตลอด ซึ่งถือเป็นหนึ่งในพันธกิจหลักของมูลนิธิฯ ที่ต้องการช่วยเหลือและยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของสังคมไทยให้ดียิ่งขึ้น มูลนิธิโคคา-โคลา ประเทศไทย รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับสภากาชาดไทยและส่งมอบความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยพิบัติทั่วประเทศ ผ่านโครงการ “น้ำทิพย์ปันน้ำใจให้กาชาด” ตลอดระยะเวลาร่วม 18 ปีที่ผ่านมา และทางมูลนิธิฯ ยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสต่อยอดความร่วมมือนี้อีกเป็นระยะเวลา 3 ปี ด้วยงบประมาณทั้งหมด 6 ล้านบาท ผ่านการส่งมอบผลิตภัณฑ์น้ำดื่ม “น้ำทิพย์” ผ่านระบบขนส่งของกลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่าที่ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อส่งความช่วยเหลือนี้ไปยังผู้ที่ต้องการได้อย่างทันท่วงที ตลอดจนมีส่วนร่วมและให้การสนับสนุนกิจกรรมอื่น ๆ ของสภากาชาดไทยต่อไป”
พลโท นายแพทย์ อำนาจ บาลี ผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย กล่าวเสริมว่า “การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในประเทศไทยให้ได้มีชีวิตที่มั่นคง ทัดเทียม และยั่งยืน คือภารกิจหลักของสำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ เสมอมา การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างครบวงจรเป็นหนึ่งในความรับผิดชอบของเรา นับตั้งแต่การเตรียมความพร้อมก่อนเกิดภัย การจัดการขณะเกิดภัย และการฟื้นฟูบูรณะสู่ภาวะปกติ บรรเทาทุกข์ผู้ด้อยโอกาส ตลอดจนการประชานามัยพิทักษ์ในทุกพื้นที่ ทั้งนี้ การสนับสนุนจากมูลนิธิโคคา-โคลา ประเทศไทย ผ่านโครงการ “น้ำทิพย์ปันน้ำใจให้กาชาด” ไม่เพียงช่วยให้สภากาชาดไทยสามารถให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที แต่ยังเป็นต้นแบบความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการร่วมพัฒนาสังคมอีกด้วย โดยการต่อยอดโครงการฯ อีก 3 ปีข้างหน้านี้จะช่วยเสริมความพร้อมในการรับมือภัยพิบัติได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสถานการณ์วิกฤติที่ต้องการการตอบสนองอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ ต้องขอขอบคุณมูลนิธิฯ ที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีตลอด 18 ปีที่ผ่านมา และหวังว่าจะได้ร่วมมือกับส่งมอบสิ่งที่ดีสู่สังคมต่อไป”
ความร่วมมือภายใต้โครงการ "น้ำทิพย์ปันน้ำใจให้กาชาด" ครั้งนี้ครอบคลุมระยะเวลาระหว่างปี พ.ศ. 2568 – 2570 นับเป็นการต่อยอดความร่วมมือระหว่างมูลนิธิโคคา-โคลา ประเทศไทย กับสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย โดยมูลนิธิฯ จะสนับสนุนงบประมาณ 2 ล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็น 6 ล้านบาทตลอดระยะเวลาโครงการ ผ่านการส่งมอบน้ำดื่ม “น้ำทิพย์” ขนาด 550 มิลลิลิตร ไปยังพื้นที่ภัยพิบัติทั่วประเทศ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยมูลนิธิฯ ลงทุนในการใช้ “ระบบออนไลน์ขอรับการสนับสนุนน้ำดื่มน้ำทิพย์” (www.namthipgivesback.org) เพื่อเป็นสื่อกลางในการประสานของเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่สภากาชาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถขอรับการสนับสนุนได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที
“การประสานความร่วมมือระหว่างสององค์กรจนเกิดเป็นโครงการ “น้ำทิพย์ปันน้ำใจให้กาชาด” ที่ได้ดำเนินการต่อเนื่องมาอย่างยาวนานจนปีที่ 18 นี้ สะท้อนถึงพันธกิจระยะยาวของมูลนิธิโคคา-โคลา ประเทศไทย ในการสร้างคุณค่าร่วมและสร้างประโยชน์ให้กับสังคมไทย ผ่านการทำงานและประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ องค์กรไม่แสวงผลกำไร และชุมชน ทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับภูมิภาค และระดับประเทศ โดยตลอดระยะเวลา 18 ปี มูลนิธิฯ ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติแล้วทั่วประเทศ จากภัยพิบัติในทุกระดับความรุนแรง ซึ่งรวมถึงเหตุการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยได้ส่งมอบน้ำดื่ม “น้ำทิพย์” ไปแล้วรวมมากกว่า 7 ล้านขวด ผ่านเครือข่ายการขนส่งที่ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อเตรียมพร้อมและรองรับกับทุกสถานการณ์ภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น” นายธงชัย กล่าวทิ้งท้าย