• Krungthai COMPASS เผยอัตราเงินเฟ้อเดือน มี.ค. 68 อยู่ที่ 0.84% คาดเงินเฟ้อมีทิศทางชะลอลงระยะข้างหน้า ท่ามกลางแรงกดดันจากสงครามการค้า ประเมินว่า ทิศทางเงินเฟ้อของไทยระยะข้างหน้ายังมีโมเมนตัมที่อ่อนแรงลง ปัจจัยหลักจากอุปสงค์ภายในประเทศซึ่งมีสัญญาณแผ่ว และทิศทางราคาพลังงานที่ลดลง โดยอุปสงค์ในประเทศยังคงเปราะบาง สะท้อนจากดัชนีการลงทุนภาคเอกชน (PII) ในเดือน ก.พ. 68 ที่ปรับลดลงทั้งหมวดเครื่องจักร ยานพาหนะ และก่อสร้าง ส่งผลให้ดัชนีโดยรวมหดตัว 7.7%YoY
Home SPRC ประชุมผู้ถือหุ้น อนุมัติจ่ายเงินปันผล 0.15 บาทต่อหุ้น
SPRC ประชุมผู้ถือหุ้น อนุมัติจ่ายเงินปันผล 0.15 บาทต่อหุ้น

SPRC ประชุมผู้ถือหุ้น อนุมัติจ่ายเงินปันผล 0.15 บาทต่อหุ้น

(10 เมษายน 2568) บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC จัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-AGM) รายงานผลการดำเนินงานและผลประกอบการปี 2567 การพิจารณาจ่ายเงินปันผล รวมถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในอนาคต

นายโรเบิร์ต โดบริค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการบริษัท SPRC รายงานผลประกอบการปี 2567 มีกำไรสุทธิ 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอัตรากำไรของกิจการอยู่ที่ 6.10 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล การเติบโตในปี 2567 เป็นผลมาจากค่าการกลั่นที่ดีขึ้น อัตราการนำน้ำมันดิบเข้ากลั่นที่สูงขึ้น และมูลค่าที่เพิ่มขึ้น 29 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการเข้าซื้อธุรกิจการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงภายใต้แบรนด์คาลเท็กซ์ เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2567

จากการเติบโตดังกล่าว ที่ประชุมผู้ถือหุ้นจึงได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากกำไรสุทธิของปี 2567 เป็นจำนวนเงิน 0.40 บาทต่อหุ้น โดยหลังหักเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานใน 6 เดือนแรกของปี 2567 ที่ได้จ่ายไปแล้วจำนวน 0.25 บาทต่อหุ้น ทำให้เงินปันผลคงเหลือต้องจ่ายเพิ่มเป็นจำนวน 0.15 บาทต่อหุ้น บริษัทฯ ได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568 และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 พฤษภาคม 2568

“การผสานประโยชน์จากการบูรณาการธุรกิจโรงกลั่นและธุรกิจการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมช่วยสร้างเสริมมูลค่าธุรกิจและวางรากฐานที่แข็งแกร่งเพื่อความสำเร็จอย่างต่อเนื่องขององค์กรผ่านการบริหารห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่การเลือกน้ำมันดิบจนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์แก่ลูกค้าอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นสร้างผลการดำเนินงานที่โดดเด่นเพื่อให้ได้มาซึ่งผลตอบแทนสูงสุดแก่ผู้ถือหุ้น ผ่านกลยุทธ์ทางธุรกิจที่หลากหลาย อาทิ การบริหารจัดการห่วงโซ่คุณค่าของโรงกลั่นอย่างเหมาะสม การสำรวจโอกาสทางธุรกิจแบบหมุนเวียน (Circular Business) และการดำเนินกลยุทธ์ “Spot to Street” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจำหน่ายผ่านช่องทางที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด” นายโดบริค กล่าวปิดท้าย