บอร์ด DHOUSE อนุมัติจัดตั้ง ดีกรุ๊ป โฮลดิ้ง พร้อมเข้าซื้อกิจการ ดี เอนเนอร์จี แอนด์ รีเทล ดำเนินธุรกิจปิโตรเลียมและค้าปลีก มุ่งเน้นสร้างรายได้ประจำ กระจายความเสี่ยงการดำเนินธุรกิจ เผยปลายปี 63 ลูกค้าให้ความสนใจเยี่ยมชมโครงการคึกคัก ดันยอดจอง-ยอดโอนเพิ่มทยอยรับรู้ Q1/64 ปี 64 เตรียมลงทุนโครงการใหม่ 2 โครงการ พร้อมแผนขยายโครงการไปสู่จังหวัดอื่นในภาคอีสาน
นายพงศ์พจน์ เลิศรุ้งพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีเฮ้าส์พัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ DHOUSE ผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดมหาสารคาม ประเภทที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์เพื่อขายหลากหลายรูปแบบ อาทิ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ และอาคารพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 1/2564 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 64 มีมติอนุมัติการจัดตั้งบริษัทย่อย บริษัท ดีกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท โดย DHOUSE เข้าถือหุ้น 99.99% เพื่อดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทให้เช่า ธุรกิจค้าปลีก หรือลงทุนในธุรกิจอื่น
นอกจากนี้ยังมีมติอนุมัติให้บริษัท ดีกรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด เข้าซื้อกิจการบริษัท ดี เอนเนอร์จี แอนด์ รีเทล จำกัด ในสัดส่วน 99.98% ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการยื่นขอเป็นผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ประเภทสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง และร้านค้าภายในสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง
ทั้งนี้ การจัดตั้งบริษัทย่อย และการซื้อกิจการ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างรายได้ประจำ อีกทั้งเป็นการกระจายที่มาของรายได้ เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตให้แก่บริษัทในระยะยาว
ขณะที่ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในช่วงปลายปี 63 ที่ผ่านมา ลูกค้าให้ความสนใจเข้าเยี่ยมชมโครงการจำนวนมาก ส่งผลให้มียอดจอง-ยอดโอนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทยอยรับรู้ Q1/64 โดยโครงการที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ โครงการพฤกภิรมย์ ที่ทยอยโอนในเดือน ธ.ค. 63
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทเตรียมลงทุนโครงการใหม่ 2 โครงการ โดยมีจัดเตรียมที่ดินไว้แล้ว อาทิ โครงการ U Park บ้านจัดสรร บนพื้นที่ 40 ไร่ ใกล้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จำนวนรวม 249 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 607.07 ล้านบาท เตรียมเปิดขายไตรมาส 1/64
โครงการแกรนด์บิซ 2 อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น จำนวน 40 ยูนิต บนพื้นที่ 3 ไร่ ใกล้มหาวิทยาลัย ศูนย์การค้า และสถานที่ราชการต่างๆ มูลค่าโครงการ 127.60 ล้านบาท เตรียมเปิดขายโครงการไตรมาส 2/64
อีกทั้ง ช่วงปลายปี 64 บริษัทมีแผนที่จะขยายไปหัวเมืองใหญ่ในจังหวัดอื่นๆ ซึ่งคาดว่าจะมีการเจราจาซื้อที่เพิ่มที่จังหวัดขอนแก่นเป็นจังหวัดแรก โดยจะเลือกที่ดินที่มีศักยภาพในการพัฒนาโครงการทั้งแนวราบและแนวสูง
